Power bank ขึ้นเครื่องบินได้ไหม? วิธีเลือกแบตสำรองที่ใช้งานได้ทุกทริป!

Power bank ขึ้นเครื่องบินได้ไหม? วิธีเลือกแบตสำรองที่ใช้งานได้ทุกทริป!

ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน พาวเวอร์แบงค์ หรือแบตสำรองได้กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล หลายคนต้องการพก power bank ขึ้นเครื่องบิน เพื่อให้โทรศัพท์และอุปกรณ์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ตลอดการเดินทาง อย่างไรก็ตาม กฎการนำแบตสำรองขึ้นเครื่องบินนั้นมีความเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) และการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (AOT) มาเรียนรู้เกี่ยวกับกฎและข้อห้ามในการพกแบตสำรองขึ้นเครื่องบินเพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยกันค่ะ

ข้อกำหนดทั่วไปเกี่ยวกับการนำพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องบิน

ตามข้อกำหนดของ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เกี่ยวกับการนำแบตเตอรี่ลิเธียมขึ้นเครื่องบิน มีข้อกำหนดสำหรับแบตสำรองขึ้นเครื่องตามความจุ ดังนี้

  • แบตสำรองที่มีความจุต่ำกว่า 100 Wh: สามารถพกขึ้นเครื่องได้โดยไม่จำกัดจำนวน และไม่ต้องขออนุญาตจากสายการบิน

  • แบตสำรองที่มีความจุระหว่าง 100 - 160 Wh: สามารถนำขึ้นเครื่องได้ แต่จำกัดจำนวนไม่เกิน 2 ชิ้น และต้องขออนุญาตสายการบินล่วงหน้า

  • แบตสำรองที่มีความจุเกิน 160 Wh: ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสูง

การพกพาพาวเวอร์แบงค์ที่มีขนาดเหมาะสมตามข้อกำหนดจะทำให้การเดินทางสะดวกและปลอดภัย ทั้งนี้แบตสำรองที่ไม่มีการระบุฉลากความจุที่ชัดเจนอาจถูกปฏิเสธไม่ให้นำขึ้นเครื่องได้
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม: สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การพาแบตเตอรี่ลิเธียมไปกับอากาศยาน

ประเภทของแบตสำรองที่สามารถขึ้นเครื่องบินได้

การเลือกพาวเวอร์แบงค์เพื่อพกขึ้นเครื่อง ควรตรวจสอบฉลากและเลือกที่มีความจุสอดคล้องตามข้อกำหนดของ CAAT และการท่าอากาศยานฯ โดยสรุปได้ดังนี้

  1. แบตสำรองที่มีความจุต่ำกว่า 100 Wh
    แบตสำรองประเภทนี้สามารถพกขึ้นเครื่องได้ในกระเป๋าถือ (Carry-on) โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยง ไม่จำกัดจำนวนและไม่ต้องขออนุญาตจากสายการบิน

  2. แบตสำรองที่มีความจุระหว่าง 100 - 160 Wh
    สำหรับแบตสำรองประเภทนี้ ผู้โดยสารสามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ชิ้น โดยต้องแจ้งให้สายการบินทราบและอาจต้องขออนุญาตล่วงหน้า สายการบินบางแห่งอาจมีนโยบายจำกัดจำนวนและอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย

  3. แบตสำรองที่มีความจุเกิน 160 Wh
    แบตสำรองขนาดนี้ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟไหม้หรือระเบิด หากจำเป็นต้องขนส่งพาวเวอร์แบงค์ขนาดใหญ่ ควรใช้บริการขนส่งสินค้าพิเศษแทน

วิธีคำนวณความจุของแบตสำรอง (Wh)

หากแบตสำรองของคุณแสดงความจุในหน่วย mAh (มิลลิแอมป์-ชั่วโมง) สามารถคำนวณความจุในหน่วย Wh เพื่อยืนยันว่าอยู่ในขอบเขตที่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ ดังนี้

สูตรคำนวณ Wh = (mAh x Volt) ÷ 1000
ตัวอย่างการคำนวณ
หากพาวเวอร์แบงค์มีความจุ 20,000 mAh และแรงดันไฟฟ้า 3.7V ความจุของแบตสำรองจะเท่ากับ (20,000 x 3.7) ÷ 1000 = 74 Wh ซึ่งอยู่ในระดับที่ปลอดภัยและอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบินได้
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม: การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (AOT) ข้อกำหนดเกี่ยวกับการพกแบตเตอรี่ลิเธียมขึ้นเครื่อง

 

ตำแหน่งที่ควรเก็บแบตสำรองขณะเดินทาง

ตามคำแนะนำของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (AOT) แบตสำรองควรเก็บไว้ใน กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on) เท่านั้น ห้ามเก็บในกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่อง เนื่องจากแบตเตอรี่ลิเธียมมีความเสี่ยงหากเกิดความร้อนสูงหรือได้รับความเสียหายขณะเดินทาง

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อพกแบตสำรองขึ้นเครื่อง

เพื่อความปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนด ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังต่อไปนี้เมื่อพกแบตสำรองขึ้นเครื่องบิน

  • ไม่ควรนำแบตสำรองที่ไม่มีฉลากบ่งบอกความจุ เพราะอาจทำให้เกิดปัญหากับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
  • ไม่ควรใช้งานแบตสำรองขณะเครื่องบินกำลังขึ้นหรือลง เนื่องจากอาจส่งผลต่อความปลอดภัย
  • หลีกเลี่ยงการพกแบตสำรองที่เก่าหรือชำรุด เพราะอาจเกิดความเสี่ยงต่อการระเบิดหรือเกิดไฟลุกได้

เคล็ดลับในการเดินทางพร้อมพาวเวอร์แบงค์อย่างปลอดภัย

  1. ตรวจสอบข้อกำหนดสายการบินก่อนการเดินทาง: แต่ละสายการบินอาจมีกฎการพกพาแบตสำรองที่ต่างกัน ควรตรวจสอบก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
  2. จัดเก็บพาวเวอร์แบงค์ในที่ที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการเก็บแบตสำรองในที่ที่มีอุณหภูมิสูง และเก็บไว้ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องเสมอ
  3. ชาร์จไฟให้พอดี ไม่ควรชาร์จแบตสำรองนานเกินไปเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากความร้อนสูง

สรุป

แบตสำรองสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ หากมีความจุตรงตามข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) และการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (AOT) ควรเลือกพาวเวอร์แบงค์ที่มีขนาดเหมาะสม ตรวจสอบความจุก่อนนำขึ้นเครื่อง เก็บไว้ในกระเป๋าถือ และหลีกเลี่ยงการใช้งานในสถานการณ์เสี่ยง เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้การเดินทางปลอดภัยและลดความเสี่ยงได้
การปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้การเดินทางของคุณปลอดภัย แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้โดยสารและเครื่องบินอีกด้วย