หูฟังบลูทูธยี่ห้อไหนดี พกพาสะดวก อัปเดต 2024

หูฟังบลูทูธยี่ห้อไหนดี พกพาสะดวก อัปเดต 2024

หูฟังบลูทูธยี่ห้อไหนดี พกพาสะดวก อัปเดต 2024


"หูฟังบลูทูธ" เป็นเหมือนอวัยวะอีกชิ้นหนึ่งที่ขาดไม่ได้รองจากสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว เพราะผู้คนส่วนใหญ่มักใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อฟังเพลงขณะออกกำลังกาย หรืออำนวยความสะดวกในการสนทนา ไปจนถึงดูวิดีโอบนแล็ปท็อป ในบทความนี้ เราจึงจะมาแนะนำ หูฟังบลูทูธ ที่มีประสิทธิภาพดีในราคาที่สมเหตุสมผล ลองมาดูกันว่าในปี 2024 นี้มีหูฟังบลูทูธยี่ห้อไหนที่น่าสนใจกันบ้าง


10 อันดับหูฟังบลูทูธมาแรง ในปี 2024


1. MARSHALL Minor III BLACK


 แค่ได้ยินชื่อ MARSHALL ก็การันตีได้ถึงคุณภาพ ด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ และดีไซน์สุดเท่ สำหรับ MARSHALL Minor III นี้
เป็นการเชื่อมต่อไร้สายด้วยเทคโนโลยี 5.2 ให้คุณได้เพลิดเพลินกับเสียงเพลงในโลกส่วนตัว ได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 25 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถควบคุมเสียงเพลงและสายโทรเข้า - ออกของคุณโดยง่ายๆ เพียงสัมผัส นอกจากนี้ยังมีดีไซน์ที่เล็กกะทัดรัด สวมใส่สบาย และแน่นอนว่ายังคงความโดดเด่นของเสียงเบสที่เป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Marshall ไว้เช่นเคย
หูฟังบลูทูธ MARSHALL Minor III BLACK

2. Xiaomi Redmi Buds 4 Lite 


หากพูดถึงแบรนด์สัญชาติจีนที่มาแรง และมีพร้อมทั้งเทคโนโลยีและดีไซน์ ในราคาที่จับต้องได้ คงต้องยกให้ Xiaomi ซึ่งหูฟังไร้สาย Xiaomi Redmi Buds 4 Lite นั้นก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจบตามอง ด้วยการออกแบบกึ่งอินเอียร์ จึงใส่งาย ใส่สบาย ไม่เจ็บหู และช่วยลดเสียงรบกวนได้ดี ในแง่การเชื่อมต่อก็ทำได้ไว ด้วยบลูทูธ 5.3 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเสถียรและรวดเร็วยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการป้องกันน้ำในระดับ IPX4 ทำให้ใส่ออกกำลังกายได้อย่างสบายใจ และสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 5 ชั่วโมงแบบไม่มีสะดุด 
หูฟัง Bluetooth Xiaomi Redmi Buds 4 Lite

3.AUKEY EP-M1S 


AUKEY เป็น Gadget ยี่ห้อดัง คุณภาพดี จากเยอรมนี ซึ่งหูฟังบูลทูธรุ่น EP-M1S มาพร้อมกับเทคโนโลยี Qualcomm Bluetooth Audio SoC ขั้นสูง ระบบบนชิป พร้อมการสนับสนุนในตัวสำหรับ PEEK+PU รับการเชื่อมต่อที่มั่นคงซึ่งให้เสียงที่มีความเที่ยงตรงสูง เอียร์บัดสตรีมเสียงสเตอริโอ Hi-Fi ใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เคสชาร์จขนาดกะทัดรัดสามารถชาร์ได้เพิ่มอีก 30 ชั่วโมง (ชาร์จในเคสได้ 5 ครั้ง) 

นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อได้รวดเร็ว ทั้งกับโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และโน๊ตบุ๊ค รวมถึงยังมีคุณสมบัติ กันน้ำ กันฝุ่น และกันเหงื่อได้ดี จึงเหมาะกับการออกกำลังกาย และทนต่อในทุกสภาวะอากาศ
หูฟัง Bluetooth AUKEY EP-M1S

4.Xiaomi Redmi Buds 4 Active Wireless Bluetooth Earphone


Redmi Buds 4 Active Wireless Bluetooth Earphone เป็นหูฟังไร้สายอีกรุ่นหนึ่งที่ Xiaomi ส่งเข้าประกวด ด้วยความสามารถที่หลากหลายจึงไม่น่าแปลกใจที่หูฟัง Bluetooth รุ่นนี้จะไปเตะหูเตะตาใครหลายๆ คน เนื่องจาก Redmi Buds 4 Active มีการปรับปรุงเสียงเบส ให้ดีและดังขึ้น มาพร้อมกับไมโครโฟนที่ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างในขณะสนทนา และเทคโนโลยี Bluetooth 5.3 ที่ช่วยลดการใช้พลังงาน และความเสถียรของสัญญาณมากขึ้น

ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นมาในรูปแบบ Fast charging ชาร์จได้รวดเร็วแค่ 10 นาที คุณสามารถเพลิดเพลินกับการฟังได้อีก 110 นาทีและยังใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสูงสุด 28 ชั่วโมง เมื่อใช้คู่กับเคส 
Redmi Buds 4 Active Wireless Bluetooth Earphone

5.Sony WF-1000XM5 หูฟังตัดเสียงรบกวนไร้สาย


Sony เป็นแบรนด์เครื่องเสียงและเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สำหรับหูฟังบลูทูธรุ่น WF-1000XM5 มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย และประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนด้วย AI  ที่ดีที่สุดในตลาด ด้วยโปรเซสเซอร์เสียงแบบเรียลไทม์ ขับเคลื่อนไดรเวอร์ยูนิตที่สร้างความถี่กว้าง เบสลึก และเสียงร้องชัดเจน ให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม คมชัดเหมือนกับอยู่ในสตูดิโอออกแบบให้มีขนาดเล็ก สวยงาม และมีน้ำหนักเบา ทำให้คุณสามารถพกพาไปได้สะดวกทุกที่

หูฟังบลูทูธ Sony WF-1000XM5

6.KLIPSCH T5 II True Wireless ANC McLaren


KLIPSCH เป็นแบรนด์เครื่องเสียงระดับ High-End จากฝั่งอเมริกา ที่ก่อตั้งมากว่า 78 ปี โดยมีสินค้ายอดฮิตเป็นลำโพง ที่มีจุดเด่นในเรื่องคุณภาพที่สูงและความเพี้ยนต่ำ จนปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น จนออกมาเป็นหูฟังบลูทูธรุ่น T5 II True Wireless ANC McLaren ที่ทันสมัย มีโหมดตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling และโหมดฟังเสียงรอบข้าง Transparency Mode เลือกได้ตามการใช้งาน เสริมรายละเอียดเสียง มิติเสียงให้ฟังดูมีความสมจริง เป็นธรรมชาติด้วย ระบบเสียง DIRAC HD Sound แถมยังมี Bragi Move ใช้วิธีพยักหน้าเพื่อรับสายโทรศัพท์ หรือส่ายหน้าเพื่อปฏิเสธสาย และสามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น Klipsch Connect ในสมาร์ทโฟนได้ด้วย

หูฟังบลูทูธ KLIPSCH T5 II True Wireless ANC McLaren

7.Jabra Elite 10


JABRA เป็นแบรนด์สัญชาติเดนมาร์กที่เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์เครื่องเสียง ที่จะมาช่วยเติมเต็มชีวิตประจำวันของคุณให้มีสุนทรียะยมากขึ้น กับ หูฟังบลูทูธรุ่น Elite 10 
หูฟัง True Wireless ที่ผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของ Jabra ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนภายนอกดีขึ้นเป็น 2 เท่า โดยมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนมาให้ถึง 6 ตัว ช่วยให้เสียงสนทนาคมชัดในทุกสภาพแวดล้อม
มาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 10 มม. และระบบเสียง Spatial Sound เพื่อให้ดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม

นอกจากนี้ยังมี Dolby Head Tracking ช่วยจับการเคลื่อนไหว ทำให้เสียงเคลื่อนที่ไปพร้อมกับตัวคุณ ใส่สบายตลอดทั้งวันด้วยเทคโนโลยี Jabra ComfortFit ซึ่งช่วยลดแรงดันภายในหู พิเศษกว่าที่ Bluetooth Multipoint Connection สามารถใช้เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน และสามารถสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย ตัวแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 6 ชม. และเพิ่มเป็น 27 ชม. เมื่อใช้ร่วมกับตลับชาร์จ
 

หูฟังบลูทูธ Jabra Elite 10

8.Soundcore Liberty 4


มาที่หูฟังบลทูธคุณภาพดีจากฝั่งอเมริกาอีกหนึ่งตัว นั่นก็คือ Soundcore Liberty 4 ของแบรนด์ Anker Soundcore ที่มาพร้อมคุณภาพเสียงที่เข้ากับตำแหน่ง ปรับให้เข้ากันไม่ว่าจะฟังเพลง หรือชมภาพยนตร์ เสียงเบสที่หนักแน่นและนุ่มลึก เสียงกลางที่แม่นยำ และเสียงแหลมที่คมชัด มี built-in gyroscope and spatial audio algorithm ที่จะตรวจจับการเคลื่อนไหวและมีระบบตัดเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์

ไม่เพียงแต่ความโดดเด่นในเรื่องคุณภาพเสียงเท่านั้น แต่ทางแบรนด์ยังคำนึงถึงการออกแบบหูฟังให้รู้สึกสบายตลอดเวลาที่สวมใส่ ด้วยจุกหูฟัง 4 ขนาดให้เลือกเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความกระชับได้ตามต้องการ
หูฟังบลูทูธ Soundcore Liberty 4

9.Samsung Galaxy Buds2 Pro


ย้ายมาทางฝั่งเกาหลี กับแบรนด์ที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ Samsung ที่ผลิตสินค้าและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาให้เราเซอร์ไพรส์กันอยู่เรื่อยๆ สำหรับหูฟังไร้สาย Galaxy Buds2 Pro รุ่นนี้นั้นก็มาพร้อมความสามารถแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ตัดเสียงรบกวนดี้ขึ้น 40% ทำให้ได้ยินบทสนทนาชัดแจ๋วโดยไม่มีเสียงรอบข้างมากวนใจ แถมยังมี AI Technology Voice Separation ที่ช่วยคัดกรองเสียงรอบข้างออก และส่งเฉพาะเสียงพูดไปที่ปลายสายด้วย

ในฝั่งของ Ergonimic Design ก็ทำได้ดี มีการปรับขนาดให้เล็กลง 15% เพื่อให้พอดีรับกับห ใส่สบาย ไม่เจ็บหู แต่ก็กระชับใส่ลุยได้ทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะฟังเพลงดูหนังหรือเล่นกีฬาก็เอาอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทันทีเมื่อเปิดเคสหูฟังโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อใหม่ทุกครั้ง สะดวกสุดๆ

หูฟังบลูทูธ Samsung Galaxy Buds2 Pro

10.Redmi Buds 5 Pro


มาถึงหูฟัง Bluetooth ยี่ห้อสุดท้ายที่เราแนะนำ นั่นก็คือ Redmi Buds 5 Pro มาพร้อมเทคโนโลยี Bluetooth Low Energy ที่มีความละเอียดสูง คุณภาพเสียง Hi-Fi สามารถปรับโหมดในการใช้งานให้เหมาะสมได้ ไม่ว่าจะเป็นโหมดเพลง ที่สร้างสภาพแวดล้อมให้เหมือนเราอยู่ในคอนเสิร์ต หรือโหมดวิดีโอ ที่ช่วยสร้างเสียงและบรรยากาศให้เสมือนอยู่ในโรงหนัง 

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาขีดความสามารถในการลดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 3 เท่า ด้วยการตัดเสียงรบกวนความถี่กว้างพิเศษ จึงสามารถลดเสียงจากสภาพแวดล้อมภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รู้สึกสบายหูและเป็นส่วนตัวในการฟังเพลงหรือดูหนังเรื่องโปรด

หูฟังบลูทูธ Redmi Buds 5 Pro
เคล็ดไม่ลับในการเลือกหูฟังบลูทูธ


การพิจารณาเลือกซื้อหูฟังบลูทูธนั้น ไม่เพียงแต่พิจารณาว่าเป็นหูฟังยี่ห้ออะไร ราคาเท่าไหร่ มีฟังชั่นอะไรบ้างเท่านั้น แต่ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่ควรนำมาใช้ในการเลือกพิจารณาด้วย ได้แก่

เลือกหูฟังไร้สายให้เหมาะไลฟ์สไตล์


หากพิจารณาจากหูฟังบลูทูธแต่ละแบบที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าหูฟังแต่ละแบบนั้นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเราจึงควรเลือกหูฟังที่เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต หรือกิจกรรมที่เราชอบทำมากที่สุด เช่น หากคุณเป็นสายออกกำลังกายก็ควรเลือกหูฟังไร้สาย ที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ กันเหงื่อได้ดี หรือถ้าคุณเป็นสายท่องเที่ยว ก็ควรเลือกหูฟัง Bluetooth ที่มีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก และสามารถกันเสียงรอบข้างได้ดี เป็นต้น

คุณภาพเสียง


คุณภาพเสียงถือเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อหูฟังบลูทูธ ดังนั้นก่อนทำการเลือกซื้อทุกครั้ง ควรมีการทดลองระบบเสียง และฟังก์ชันหรือฟีเจอร์ต่างๆ ของหูฟังรุ่นนั้นๆ ว่าตรงตามคำเคลมหรือไม่


ความจุแบตเตอรี่


ความจุแบตเตอรี่ถือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งถ้าคุณต้องใช้หูฟังบลูทูธในชีวิตประจำวัน หรือพกพาออกไปใช้ข้างนอก ที่ไม่สะดวกในการชาร์จ การมีความจุแบตเตอรี่ที่มากกว่า ก็เท่ากับระยะเวลาที่สามารถใช้งานได้ก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วย

สรุป


ในปัจจุบันหูฟังบลูทูธได้มีการผลิต วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้มากขึ้นครอบคลุมในทุกไลฟ์สไตล์ เพราะฉะนั้นเราจึงควรเลือกหูฟังให้เหมาะสมกับกิจกรรม และมีฟังก์ชันที่เหมาะสม ตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุด โดยลองเอาเช็กลิสต์ และคำแนะนำในบทความนี้ไปเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจได้ว่าเราควรเลือกซื้อหูฟังบลูทูธยี่ห้อไหนดี ถึงจะคุ้มค่าที่สุด

สำหรับใครที่ต้องการเลือกซื้อหูฟังบลูทูธ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบรนด์ไหน หรือรุ่นอะไรดี สามารถมาทดลองเสียงและฟังก์ชันการใช้งานได้ที่ MBK Center เพราะนอกจากที่นี่จะเป็น ศูนย์การค้าที่ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และตั้งอยู่ใจกลางเมืองแล้ว ก็ยังมีโซน Mobile & Electronics ชั้น 4 พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าแบบครบวงจร